สถาบันการเรียนรู้และการประกอบการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
หรือ Chula Creative Tourism Academy (CUCT) ได้จัดทริปท่องเที่ยวน่าน โดยพัฒนาต่อยอดจากงานวิจัยสู่การท่องเที่ยวสร้างสรรค์ขึ้นเป็นทริปแรกในชื่อว่า "เที่ยว ทัศน์ ทอ สู่เมืองน่าน" นำลูกทัวร์กลุ่มแรก ออกเดินทางไปสนุกกับเรา เมื่อวันที่ 1-3 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยทริปเที่ยว ทัศน์ ทอ สู่เมืองน่านนี้ ได้พาลูกทัวร์ไปเที่ยวช้อปสินค้าพื้นเมือง สินค้า rare item ของน่าน พร้อมท่องเที่ยวอย่างสนุกสนานและลึกซึ้งไปกับวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของผู้คนเชื้อสายต่างๆ ของเมืองน่านผ่านกิจกรรมสุดพิเศษที่จัดเตรียมไว้อย่างดี จะสนุกสนานและเต็มอิ่มมากแค่ไหน เราขอนำภาพบรรยากาศในทริปมาให้ชมกัน ถ้าพร้อมแล้วมาติดตามชมกันได้เลย...
เดินทางมาถึงสนามบินน่านนคร จ.น่าน ทีมงานต้อนรับพร้อมรับขึ้นรถตู้ออกเดินทางแอ่วน่านกันเลย
เริ่มต้นกันที่ร้านกาแฟ Erabica coffee ร้านสวย กาแฟรสชาติดี พร้อมอาหารเช้าแสนอร่อย ที่ทีมงานเตรียมต้อนรับตามเมนูที่ทุกท่านได้เลือกกันไว้ล่วงหน้าแล้ว ทีม CUCT แนะนำโครงการ พร้อมแจก Gift set กระเป๋าผ้าสุดพิเศษ ที่ทำจากผ้าทอไทลื้อ ให้ผู้ร่วมทริปได้นำไปใช้ระหว่างทริปกัน เพื่อสร้างบรรยากาศในการเที่ยวน่านมากยิ่งขึ้น
หลังจากเติมพลังกันเต็มที่แล้ว ก็ได้เวลานั่งรถรางชมเมือง และแวะตามสถานสำคัญต่างๆ โดยระหว่างนั่งรถรางมีไกด์ท้องถิ่นคอยบรรยายเรื่องราวของเมืองน่านให้ฟังตลอดทาง เมื่อมาถึงสถานที่สำคัญ เช่น วัดภูมินทร์ ศาลหลักเมืองน่าน วัดมิ่งเมือง วัดพระธาตุช้างค่ำ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน โดยมีไกด์และทีมงานพาชมและคอยดูแลอย่างใกล้ชิด
ช่วงบ่าย ออกเดินทางมาที่อำเภอเวียงสา เริ่มต้นช้อปกันที่ร้านแรก "ร้านวราภรณ์ผ้าทอ" แหล่งรวมผ้าทอพื้นเมืองที่มีลวดลายเป็นเอกลักษณ์ รวมถึงมีการประยุกต์ลวดลายใหม่ให้สวยงาม แปลกตา มากยิ่งขึ้น ภายในร้านจึงละลานตาไปด้วยผ้าทอสีสันสวยงาม หลากหลายลาย ให้ได้เลือกชมและช้อปกันอย่างสนุกสนาน
จากนั้นมาต่อกันที่ "ศูนย์ผ้าทอไทลื้อ บ้านดอนมูล" โดยที่นี่ก็จะมีกระบวนการตั้งแต่การย้อมผ้า การทอผ้า ไปจนถึงการแปรรูปสินค้าต่างๆ โดยมักมีการย้อมผ้าด้วยสีธรรมชาติ จากเปลือกไม้ และเมล็ดคำแสด ที่จะให้สีส้ม และสีแดงหลากหลายเฉด ซึ่งผู้ร่วมทริปจะได้ทำกิจกรรมสร้างลวดลายบนกระเป๋าผ้าด้วยสีจากเมล็ดคำแสด ออกแบบลวดลายตามใจชอบ จนออกมาเป็นผลงานอันน่าประทับใจที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลกเท่านั้น
นอกจากทำกิจกรรมแล้ว ยังได้ฟังเรื่องราวของชาวไทลื้อ บ้านเรือนรับรองอันเป็นเอกลักษณ์ของชาวไทลื้อ พร้อมรับประทานอาหารว่าง และชมวิวสวยๆ พักผ่อนทางอัธยาศัย ก่อนจะมาชมและช้อปสินค้าสวยๆ กันต่อ
ผลงานเสื้อผ้าและกระเป๋าหลากหลายคอลเลคชั่น ที่ออกแบบและพัฒนาโดยทีมวิจัยจากคณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นผลิตภัณฑ์ย้อมสีธรรมชาติจากเปลือกไม้ และเมล็ดคำแสด คัดสรรจนได้สีส้มเฉดสีใหม่ที่สวยงามร่วมสมัยมากยิ่งขึ้น
สำหรับในวันที่ 2 เริ่มกิจกรรมกันด้วยการทำผ้าเขียนเทียน ที่ร้าน "รัตนพรผ้าเขียนเทียน" ซึ่งเป็นศิลปะการสร้างลวดลายบนผืนผ้าด้วยภูมิปัญญาของชาวม้ง และนำมาย้อม"คราม" สมุนไพรที่อยู่ในชีวิตประจำวัน มีสีครามสวยงาม ทำให้ผ้าที่ย้อมออกมาเป็นสีครามสวยงามมากๆ โดยในกิจกรรมนี้จะมีตัวปั๊มหลากหลายลาย มีทั้งลายที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวม้ง และลวดลายสวยงามอื่นๆ เช่น ลายดอกไม้ ลายช้าง ฯลฯ ให้ผู้ร่วมทริปได้รังสรรค์ลวดลายตามที่ชื่นชอบ ก่อนจะนำไปย้อมคราม และผ่านกระบวนการตากแห้งจนได้เป็นผ้าพันคอแสนสวยที่แต่ละคนชื่นชอบและภาคภูมิใจในผลงานของตนสุดๆ
นอกจากจะได้ทำกิจกรรมผ้าเขียนเทียนแล้ว ที่นี่ยังมีเสื้อผ้าในคอลเลคชั่นผ้าเขียนเทียน ที่ทีมวิจัยจากคณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้พัฒนาและออกแบบลวดลายโดยนำอัตลักษณ์ของชาวม้งมาประยุกต์เกิดเป็นลายใหม่ที่สวยงามมีเอกลักษณ์ ถือเป็นอีกจุดช้อปหนึ่งที่ได้รับความสนใจอย่างมากทีเดียว
อากาศร้อน แวะช้อปหมวกสวยๆ กันแดดกันสักหน่อย
ขึ้นมาพักชมวิวสวยๆ สูดอากาศบริสุทธิ์ และพักรับประทานอาหาร ที่ร้านสกาดคอฟฟี่ และเดินทางไปพักผ่อนนั่งจิบกาแฟ ดื่มด่ำกับม่านหมอก ที่บ้านจักษ์ กะ พัฒน ์
ก่อนจะมาช้อปกันต่อที่ร้าน "มิสเอโปรดักส์" ที่นำเอกลักษณ์ของลวดลายผ้าทอไทลื้อ มาผสมผสานกับความคิดสร้างสรรค์ จนออกมาเป็นผลิตภัณฑ์คอลเลคชั่นต่างๆ ที่บอกเล่าเรื่องราววิถีชีวิตของชาวไทลื้อได้อย่างงดงาม
อีกหนึ่งจุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของ อ.ปัว ที่ "วัดภูเก็ต" ที่สามารถเดินเล่นพลิดเพลินกับวิวสวยๆของหมู่บ้าน พร้อมชมและช้อปผ้าทอไทลื้อ บ้านเก็ต ที่มีเอกลักษณ์การย้อมสีผ้าด้วยเมล็ดโกโก้ ที่เชื่อมโยงกับโกโก้วัลเล่ย์รีสอร์ท สำหรับส่งต่อวัตถุดิบทำสีย้อม และผลิตภัณฑ์ส่วนหนึ่งก็กลับคืนสู่รีสอร์ท ซึ่งเป็นจุดจำหน่ายสินค้าเพิ่มโอกาสทางการตลาด